Wednesday, October 6, 2010

0.The Last Journey of Backpacker

The Last Journey of Backpacker
การเดินทางครั้งสุดท้ายก่อนแขวนเป้


ปฐมบท

ไม่ได้มีความคิดจะโพสต์ลงเว็บเลยเพราะไม่ชอบเปิดเผยตัวตนต่อpublic สังเกตดูว่าเขามาโพสต์อะไรกันนะ ส่วนใหญ่จะเอารูปสวยๆมาโชว์และเล่าเรื่องสนุก ขำขำ บางคนบอกว่าเดี๋ยวนี้โพสต์อะไรกันก็ไม่รู้ เขาบอกว่าบางคนก็โพสต์หน่อมแน้ม ตั้งกระทู้โนเนะ แต่คนโพสต์ก็มีสิทธิเสรีภาพที่จะโพสต์น่ะ(เรานั้นถ่ายรูปออกมาไม่สวย ถ่ายรูปบุคคล อาคารบ้านเรือนพอได้ ถ่ายรูปวิวทิวทัศน์ออกมาห่วยแตกเลยสีออกมาตุ่นๆยังไงก็ไม่รู้ ถ่ายรูปในสถานที่มีแสงน้อยหรือที่มืดก็ห่วยแตกเหมือนกัน อยากได้กล้องSLRเหมือนกัน เกือบจะซื้อNikon D60แล้ว แต่คิดว่ามันเปลืองเงินโดยใช่เหตุจึงไม่ซื้อ อาศัยยืมกล้องคอมแพ็คคนอื่นมาใช้ดีกว่า)

ซึ่งการโพสต์นั้นเป็นเรื่องยากสำหรับเราเพราะเราเป็นคนรุ่นเก่ายุคอนาล็อค สามารถเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นเท่านั้นยังใช้ไม่เก่ง (ตอนสมัยเป็นนิสิตมหาวิทยาลัยเราใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เมนเฟรม เราต้องเขียนโปรแกรมเองโดยใช้ภาษาFortran 4 แล้วเอาโปรแกรมไปป้อนข้อมูลให้คอมพิวเตอร์โดยวิธีการเอากระดาษหลายแผ่นมาเจาะรูให้เป็นไปตามภาษาโปรแกรมที่เราเขียน แล้วเอากระดาษปึกนี้ไปป้อนข้อมูลให้คอมพิวเตอร์รันโปรแกรม เมื่อประมวลผลเสร็จคอมพิวเตอร์ก็จะพิมพ์ผลลัพธ์ออกมาบนกระดาษพิมพ์...หนุ่มสาวสมัยนี้เคยใช้ไหมล่ะ...555...ตอนนั้นยังไม่มีWindows ไม่มีDOS ไม่มีPCรุ่นCPU8bit)

ตุลาคม ๒๕๕๒เรารู้สึกเบื่อ อยากจะไปเที่ยวต่างประเทศสัก๖เดือน แล้วจะไปไหนดี กะว่าจะไปพุทธคยา ประเทศอินเดียสัก๒-๓เดือน(เพราะว่าเราคุ้นเคยกับอินเดีย ไม่กลัวแขกหลอก ขอให้มีmoneyก็ไปได้แล้ว ข้อมูลต่างๆไปสอบถามเอาข้างหน้าก็ได้) แล้วพอถึงเดือนมีนาคม๒๕๕๓ ก็จะหนีร้อนไปtrekkingที่เนปาลสัก๓เดือน (หลายคนคงอิจฉาว่าทำไมเราถึงมีเวลาว่างมากนัก รวยมากนักหรือไง คำตอบคือว่าเราลาออกจากงานแล้วน่ะตอนนี้ไม่มีเงิน สมัยยังทำงานอยู่เรานั่งเครื่องบินไปตรวจงาน๗๖จังหวัดแทบทุกสัปดาห์บางวันตอนเช้านั่งเครื่องบินไปเชียงรายตอนเย็นก็นั่งเครื่องบินไปภูเก็ต แค่ไม่กี่เดือนก็ได้บัตรทองTG ทำแต่งานไม่มีเวลาว่างไปเที่ยวเลย ไมล์สะสมทิ้งไปฟรีๆปีละหลายหมื่นไมล์ ก่อนลาออกได้เอาไมล์สะสมไปแลกตั๋วเครื่องบินไปกลับยุโรปได้๒ที่นั่งไปเที่ยวกับเพื่อนก็ยังมีไมล์สะสมเหลือ....สรุปคือตอนทำงานเราพอมีเงินบ้างแต่ไม่มีเวลาเที่ยว ตอนนี้มีเวลาว่างมากแต่ไม่มีเงิน...555) เราก็เช็คราคาตั๋วเครื่องบินไปอินเดียพบว่าตั๋วเที่ยวเดียวราคาถูกคือตั๋วแอร์เอเชียที่บินจากKuala LumpurไปยังTrivandrum, Kochi, Trichy แต่ถ้าต้องไปขึ้นเครื่องบินที่Kuala Lumpurเราก็ควรถือโอกาสไปเที่ยวที่บรมพุทโธ ประเทศอินโดนีเซียก่อนดีกว่า และเมื่อตั้งใจไปเที่ยวแบบแบ็คแพ็คเกอร์ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายก็ควรจะเที่ยวสถานที่อื่นในอินเดียบ้าง(เพราะว่าที่ผ่านมาเราไปเที่ยวแต่Buddhist Holy Placesและวัดพุทธศาสนา) ก็เลยปรับแผนการเดินทางใหม่ไปหลายๆที่ให้มันเว่อร์เข้าไว้ เวลาเดินทางจริงก็จะปรับเปลี่ยนแผนไปเรื่อยๆ


แผนการเดินทาง

1.Jakarta
2.Yogyakarta
3.Kuala Lumpur
4.Trichy
5.Tanjore
6.Chennai
7.Mamallapuram
8.Mysore, Belur&Halebid
9.Hampi, Badami
10.Hyderabad
11.Aurangabad(Ajanta&Ellora Caves)
12.Gujarat(Ahmedabad, Junagadh, Somnath, Palitana)
13.Rajasthan(Udaipur, Chittorgarh, Jodhpur, Jaisalmer, Bikaner, Pushkar, Jaipur)
14.Amritsar
15.Dharamsala
16.Manali
17.Delhi
18.Gaya(Bodhgaya)
19.Varanasi(Sarnath)
20.Gorakhpur(Kushinagar)
21.Lumbini
22.ABC
23.EBC
24.Gosainkund
ถ้ายังไม่หายเบื่อเดือนมิถุนายนก็จะกลับมาเที่ยวอินเดียอีกครั้ง มาtrekkingที่Himachal Pradesh, Ladakh

วางแผนเสร็จก็โทรบอกน้องชายซื้อหนังสือไกด์บุ๊คTrekking in the Nepal HimalayaของLonely Planetมาให้ เตรียมเงินไป๓,๕๐๐(คงไม่ต้องบอกนะว่าสกุลเงินอะไร) เอาบัตรเอทีเอ็มไปด้วย โทรบอกน้องชายซื้อตั๋วเครื่องบินให้ เพราะว่าเราจองตั๋วซื้อตั๋วทางอินเตอร์เน็ทไม่เป็นน่ะ...555

อยากรู้ไหมว่าเราจะเดินทางตามแผนที่วางไว้ได้หรือเปล่า มีอุปสรรคหรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นระหว่างเดินทางหรือเปล่า ถ้าอยากรู้ก็ต้องติดตามอ่านต่อไป



๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๒

๒๐.๑๕ น. เดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิโดยสายการบินแอร์เอเชีย ถึงจาการ์ตา, อินโดนีเซีย ช้ากว่ากำหนด ผ่านด่านตม.ออกมาประมาณตีหนึ่งกว่า เป็นครั้งแรกที่เรามาอินโดนีเซีย เราไม่มีไกด์บุ๊คมาด้วย อาศัยหาอ่านข้อมูลจากเว็บทีเคทีนี่แหละ 


อ่านรายละเอียดการเดินทางที่โพสต์ไว้ในเว็บtrekkingthaiได้โดยคลิกที่ลิงค์ข้างล่าง


.