Sunday, August 22, 2010

17.India_Manali_Delhi

The Last Journey of Backpacker
การเดินทางครั้งสุดท้ายก่อนแขวนเป้

India_Manali_Delhi




.

ออกเดินทางจากเมืองไทยมาได้เดือนกว่าก็เริ่มรู้สึกเบื่อแล้ว(ช่วงหลายปีหลังนี้ มักมีอาการแบบนี้บ่อยคือออกเดินทางมาได้สัก3-4สัปดาห์ชักรู้สึกเบื่อ คิดว่ามาเที่ยวให้มันได้อะไรขึ้นมา ยิ่งเที่ยวก็ยิ่งเพิ่มพูนกิเลส แทนที่จะลดละกิเลสลง) เรามาDharamshala, Manali เป็นครั้งที่2 ถามตัวเองเหมือนกันว่าเรามาทำไมอีกเนี่ย
เราเคยมาDharamshala, Manali เมื่อปี๒๕๔๖ ไม่มีอะไรน่าเที่ยวชมนัก นักท่องเที่ยวที่มาDharamshala ชอบมาเข้าเฝ้าดาไลลามะ นักท่องเที่ยวที่มาManali คงจะมาดูหิมะมั้ง
ส่วนเรามาครั้งนี้ก็เพื่อชม Dharamshala, Manali ในบรรยากาศที่มีหิมะ แต่ไม่เจอหิมะที่ Dharamshala เขาบอกว่าบางปีหิมะก็ตก บางปีหิมะก็ไม่ตก
ส่วนที่Manali เราจะเจอหิมะหรือไม่ โปรดติดตามต่อไป




๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๒

๐๖.๑๐ น. รถเมล์ออกจากสถานี Mcleod Ganj วิ่งไปถึงManali ๑๗.๓๐ น. ลงรถก็มีคนเข้ามาถามว่าต้องการห้องพักไหม ราคา 300 รูปี เราบอกว่าต้องการห้องพักราคา 200 รูปี เขาพาไปพักที่Hotel Chandela กำหนดเวลาเช็คเอาท์ ๑๒.๐๐ น.


๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๒

ไปที่วัดพุทธทิเบตที่อยู่ติดกับAmbassador Resortปรากฏว่าไม่มีห้องว่าง
จึงไปพักที่Radrang Monastery ซึ่งอยู่ระหว่างทางไปVashisht Hot Spring กะว่าจะพักผ่อนนอนเล่นอยู่ที่นี่สักสองสามสัปดาห์แล้ววันที่ ๑๗ มกราคม ค่อยไปNew Delhi
Manali เป็นเมืองที่อยู่ในหุบเขา อากาศหนาว ตอนกลางวันอากาศหนาวพอทนได้ เวลาประมาณ ๑๖.๐๐ น. พระอาทิตย์ก็จะลับเหลี่ยมเขา พอไม่มีแสงอาทิตย์อากาศก็จะหนาวมาก และวันไหนท้องฟ้ามืดครึ้มมีเมฆมากไม่มีแดดก็จะหนาวมาก อยู่ในห้องก็ยังรู้สึกหนาวมาก ต้องซุกตัวอยู่แต่ในผ้าห่มจึงจะทนหนาวได้
ในห้องพักเขาให้ผ้าห่มมาสองผืน เราก็บอกพระทิเบตว่าขอผ้าห่มเพิ่มอีกหนึ่งผืน


๐๓ มกราคม ๒๕๕๓

วันนี้ท้องฟ้ามืดครึ้ม มีเมฆมาก และฝนตกตั้งแต่เช้าและตกทั้งวันทั้งคืน ประมาณ ๒๐.๐๐ น. ฝนก็กลายเป็นหิมะตก มองไปเห็นแต่หิมะขาวโพลนไปหมด
รุ่งขึ้นตอนเช้ามองเห็นหิมะขาวโพลนไปหมดทั้งเมืองมะนาลี อยู่ในห้องก็ยังรู้สึกหนาวมาก ต้องซุกตัวอยู่แต่ในผ้าห่ม ก็รู้สึกแปลกใจว่าเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาเราไปมองโกเลียเรายังทนหนาวได้ แต่ที่มะนาลีทำไมเราจึงรู้สึกหนาวมาก(ทำให้คิดถึงแผนการเดินทางข้างหน้าว่า ถ้าไปเทรคกิ้งที่เทือกเขาหิมาลัยในเนปาล เราจะทนหนาวได้หรือ เราไม่กลัวAMSหรอก แต่กลัวหนาวมากกว่า) แล้วจะแก้ปัญหาเรื่องสู้กับความหนาวยังไงดี ก็ไปซื้อฮีตเตอร์มา ราคา 850 รูปี ก็ทำให้อบอุ่นสบายขึ้นอีกหน่อย






๐๘ มกราคม ๒๕๕๓

มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นอีกแล้ว

ตอนเย็นรู้สึกยอกที่ไหล่ขวา ก็เลยใช้มือบีบนวด สงสัยจะบีบนวดแรงไปหน่อย มันก็เลยระบม วันรุ่งขึ้นรู้สึกปวดไหล่มากๆ ขยับแขนขวาแล้วมันจะกระเทือนถึงไหล่ขวาทำให้ปวดมากๆ เวลาจะล้มตัวนอน เวลาพลิกตัว หรือลุกขึ้นนั่งก็จะปวดไหล่มาก ก็แก้ปัญหาด้วยการกินยาแก้อักเสบ และเอายาหม่องมาทาถูที่หัวไหล่
(เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับเราเมื่อปี๒๕๔๙ เราไปนั่งสมาธิอยู่แถวบริเวณต้นโพธิ์เจดีย์พุทธคยาสองสามสัปดาห์ รู้สึกยอกไหล่ไม่ยอมหาย ก็เลยปรับแผนกลับเมืองไทยทันที กลับมาเมืองไทยรู้สึกปวดไหล่มากๆปวดมากจนนอนไม่หลับ มันทรมานนะสาเหตุเพราะแบกของหนักเดินทางไกล ไปหาหมอรักษาตัวอยู่เกือบสองเดือนจึงดีขึ้น)
.

๑๒ มกราคม ๒๕๕๓

ปวดไหล่อยู่สองสามวันรู้สึกไม่ไหวแล้วจึงตัดสินใจปรับแผนการเดินทางใหม่ คือจะกลับเมืองไทย ไม่เที่ยวต่อแล้ว รู้สึกเสียดายเหมือนกัน เพราะว่าทริปนี้ตั้งใจจะเดินทางไปสังเวชนียสถาน ๔ และไปเที่ยว Buddhist Monasteries at Himalaya Mountain in Nepal

เข้าไปในเมืองมะนาลี ไปซื้อตั๋วเครื่องบิน TG324 New Delhi – Bangkok 15 January 2010 departure time 11.55 11,780 Rs. ซื้อตั๋วรถทัวร์ VOLVO AC ไปNew Delhi 13 January 2010 850 รูปี



๑๓ มกราคม ๒๕๕๓

ตอนบ่ายถวายเงินให้พระทิเบต 2 รูป ถวายฮีตเตอร์, กาต้มน้ำร้อนไฟฟ้า, กระติกน้ำร้อน
ตอนเย็นนั่งรถทัวร์จากManali ไปถึงNew Delhi เช้ามืดวันที่ ๑๔ มกราคม ๒๕๕๓ ที่นี่อากาศหนาว มีหมอกเยอะมาก ลงรถก็มีคนขับรถตุ๊กๆเข้ามาถามว่าจะไปที่ไหน เราบอกว่าไปส่งที่โรงแรมราคาถูกที่Paharganj ไป2-3แห่งปรากฏว่าห้องพักเต็ม สุดท้ายไปที่ HOTEL DE-HOCKS DELUXE ค่าห้องคืนละ 795 รูปี กำหนดเวลาเช็คเอาท์ 12.00 น. เราบอกว่าราคา 795 รูปีขอเช็คเอาท์พรุ่งนี้เช้า เขาก็ตกลง
ตอนสายไปที่สถานีรถไฟ เอาตั๋วรถไฟ New Delhi - Gaya ไปรีฟันด์เอาเงินคืน




๑๕ มกราคม ๒๕๕๓

ตอนเช้าเราบอกทางโรงแรมให้เรียกแท็กซี่มารับเราไปส่งที่สนามบิน หมอกลงจัด หมอกหนามาก เครื่องบินดีเลย์หลายเที่ยวบิน
๑๑.๕๕ น. เครื่องบินออกจากสนามบิน
๑๗.๒๕ น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ

--------- จบเรื่องราวการเดินทางครั้งนี้




เอ...ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้งหรือเปล่า เพราะว่าไม่เป็นไปตามแผนการเดินทางที่วางไว้ แต่ก็ดีใจที่ได้ไปชมสถานที่ที่เรามีความสนใจไปชมและยังไม่เคยไปมาก่อน คือ บุโรพุทโธในอินโดนีเซีย และวัดพุทธทิเบต ชุมชนชาวทิเบตที่BylakuppeในMysore อินเดีย








Manali (alt. 1,950 m or 6,398 ft), in the Beas River valley, is an important hill station in the mountains of Himachal Pradesh, India, near the northern end of the Kullu Valley.

Manali is administratively a part of the Kullu district, with population of approx. 30,000. The small town was the beginning of an ancient trade route to Ladakh and, from there, over the Karakoram Pass on to Yarkand and Khotan in the Tarim Basin.

Manali and the surrounding area is of great significance to Indian culture and heritage as it is said to be the home of the Saptarshi, or Seven Sages

Climate
The climate in Manali is predominantly cold during winters, and moderately cool during summers. The temperatures range from 4 °C (39 °F) to 30 °C (86 °F) over the year. The average temperature during summer is between 14 °C (57 °F) and 20 °C (68 °F), and between −7 °C (19.4 °F) and 10 °C (50 °F) in the winter.[citation needed]
Monthly precipitation varies between 24 mm (0.94 in) in November to 415 mm (16.3 in) in July. In average, some 45 mm (1.8 in) of precipitation is received during winter and spring months, increasing to some 115 mm (4.5 in) in summer as the monsoon approaches. The average total annual precipitation is 1,520 mm (60 in). Snowfall in the region, which usually took place in the month of December, has been delayed over the last fifteen years to January or early February.






























































































Hidimba Devi Temple is located in Manāli, a hill station in the State of Himāchal Pradesh in north India. It is an ancient cave temple dedicated to Hidimbi Devi, sister of Hidimba, who was a character in the Indian epic, Mahābhārata. The temple is surrounded by a cedar forest at the foot of the Himālayas. The sanctuary is built over a huge rock jutting out of the ground, which was worshiped as an image of the deity. The structure was built in the year 1553.








Vashist Hot Water Springs and Temple: Around 3 km from Manali, across the Beas river is Vashist, a small village with natural sulphur springs. Modern bathhouses, with Turkish-style showers, have the hot water piped into them for the convenience of the visitors who come here to benefit from the medicinal properties. Vaishisht, also boasts a pair of old stone temples, opposite each other above the main square. Dedicated to the local patron saint Vashista, the smaller of the two opens on to a partially covered courtyard, and is adorned with elaborate woodcarvings. Those lining the interior of the shrine, blackened by years of oil-lamp and incense smoke, are particularly fine. The temple tanks are underground hot-water/sulfur springs.






















New Delhi












No comments:

Post a Comment