9.India_Hampi

The Last Journey of Backpacker

การเดินทางครั้งสุดท้ายก่อนแขวนเป้

India_Hampi

๐๕ ธันวาคม ๒๕๕๒

๐๗.๐๐ น. รถเมล์มาถึงHospet ลงรถแล้วเดินหาcloakroomบริการรับฝากกระเป๋า ห้องcloakroomถูกรื้อ กำลังจะสร้างใหม่ ก็เลยหาที่ฝากกระเป๋าไม่ได้ นั่งรถตุ๊กตุ๊กไปTourist Office ค่าโดยสาร 10 รูปี ถามเรื่องทัวร์ไปHampi ทราบว่าราคา 175 รูปี รถออกเวลา ๐๙.๓๐ น. เราขี้เกียจรอก็เลยเหมารถตุ๊กตุ๊กไปเที่ยวในราคา 300 รูปี

ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ

Virupaksha Temple จำไม่ได้ น่าจะเป็น 15 รูปี ค่ากล้อง 50 รูปี(ไม่ต้องซื้อตั๋วกล้องหรอก ข้างในไม่มีอะไรน่าถ่ายรูป)

Elephant stables และVithala Temple ค่าตั๋วเข้าชม 200 รูปี คนอินเดียเสียค่าตั๋ว 10 รูปี

๑๙.๐๐ น. กลับมาถึงสถานีรถประจำทางเพื่อนั่งรถไปHyderabad กำหนดเวลารถออก ๒๐.๓๐ น. แต่รถมาช้ากว่ากำหนดเวลามากๆ เราต้องเดินไปถามเจ้าหน้าที่อยู่เรื่อยๆ

๒๓.๐๐ น.รถมาถึง แต่ไม่ได้เข้ามาจอดที่ชานชลา เจ้าหน้าที่มาตามเราให้ไปขึ้นรถ

๐๖ ธันวาคม ๒๕๕๒

๐๔.๐๐ น.รถมาจอดที่ไหนก็ไม่รู้ จอดอยู่นาน

เจอปัญหาที่คาดไม่ถึงเข้าแล้ว

คนรถบอกว่ารถวิ่งไปไม่ได้เพราะมีม็อบมาประท้วงทั่วทั้งรัฐAndhra Pradesh เขาปิดถนน รถเมล์วิ่งไม่ได้ทั่วทั้งรัฐ (เราฟังเขาพูดแล้วจับความได้เพียงว่าstrike ไม่รู้ว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร) เขาคืนเงินค่ารถให้ 75 รูปี(Hospet – Hyderabad ค่าโดยสาร 334 รูปี)

เมืองที่เราลงรถชื่อRaichur แล้วมันอยู่ตรงตำแหน่งไหนของอินเดียล่ะ เปิดดูในLonely Planet ก็ไม่มี เผอิญเราเอาแผนที่เส้นทางรถไฟแผ่นใหญ่มาด้วย เปิดดูก็รู้ว่าอยู่ประมาณตรงกลางระหว่างHospet กับ Hyderabad

แล้วเราจะทำยังไงดีเพราะคงไม่มีรถวิ่งไปรัฐAndhra Pradesh อีก๒-๓วัน เราก็ปรับแผนใหม่ ไม่ไปHyderabad, Aurangabad แต่จะไปMumbai เพื่อต่อรถไปRajasthan ตรงที่เราลงรถเป็นสถานีรถประจำทาง เราก็เดินไปดูตารางเวลารถ ปรากฏว่าไม่มีรถทางไกล ไปไกลสุดแค่Solapur ต้องไปต่อรถเมล์อีกหลายต่อ

เราก็นั่งรถตุ๊กตุ๊กไปสถานีรถไฟ ตั๋วไปMumbaiเต็มหมด ทำยังไงดี มันไม่มีทางเลือกแล้ว ก็ต้องซื้อตั๋วแบบไม่มีที่นั่ง โดยต้องขึ้นไปแย่งที่นั่งในโบกี้เอง ถ้าไม่มีก็นั่งบนพื้นหรือยืน รถออกเวลา ๑๑.๓๐ น.กำหนดถึง เวลา ๐๔.๐๐ น. ค่าโดยสาร 142 รูปี ขึ้นรถไฟไปเผอิญได้ที่นั่ง ต้องปีนไปนั่งชั้นบนเบียดกันสี่คน เวลารถจอดทุกสถานีก็มีคนขึ้นมาเรื่อยๆ เลยมีทั้งคนนั่งที่พื้นและยืนแน่นโบกี้เลย

๐๗ ธันวาคม ๒๕๕๒

๐๔.๐๐ น. รถไฟมาถึงMumbai ลงรถไฟแล้วเราก็นั่งรอจนเช้า แล้วไปซื้อหนังสือTrain at a Glance (ราคา 35 รูปี)แล้ววางแผนจะซื้อตั๋วไปUdaipurแต่ไม่มี, มีไปไกลสุดแค่Ahmedabad กำลังจะไปซื้อตั๋วรถไฟก็มีคนเข้ามาถามว่าจะเดินทางไปไหน เราบอกว่าจะไปUdaipur เขาบอกว่าไม่มีรถไฟไปหรอก จะไปรถบัสไหม เราก็งง...อ้าว มีรถไปUdaipurด้วยเหรอ(เราไม่เคยรู้ข้อมูลนี้มาก่อน) เราก็เดินตามเขาไปที่หน้าสถานีรถไฟ ไปที่บู๊ทขายตั๋วรถบัส เป็นsleeper bus มีทั้งตั๋วนั่ง(650 รูปี)และตั๋วนอน(850 รูปี) รถออกเวลา ๑๔.๐๐ น. กำหนดถึงUdaipur เวลา ๐๘.๐๐ น. เราซื้อตั๋วนอนหนึ่งที่แล้วก็ฝากกระเป๋าไว้ที่บู๊ทขายตั๋วก่อน

เราเดินไปที่สถานีรถไฟ ขึ้นไปที่ชั้นสองของอาคารขายตั๋ว ไปที่ช่องขายตั๋วTourist quota ticket ซื้อตั๋วJaipur - Amritsar (เดินทางวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๕๒ Sleeper classราคา 321 รูปี) ซื้อตั๋วNew Delhi – Gaya (เดินทางวันที่ ๑๙ มกราาคม ๒๕๕๓ Sleeper class ราคา 364 รูปี)

ซื้อตั๋วเสร็จก็ไปเดินเที่ยว Gateway of India, Taj Mahal Hotel

๑๓.๓๐ น. ไปที่บู๊ทขายตั๋วเอากระเป๋าใหญ่ที่ฝากไว้ แล้วเขาก็ให้คนพาไปรอยังจุดขึ้นรถ แต่รถยังไม่มา คนที่พาเรามาพูดขอค่าทิปที่พามา เราก็เฉยเสีย

๑๔.๐๐ น. รถบัสวิ่งมาจอด เราก็ขึ้นรถไป

Hampi

Hampi (Kannada: ಹಂಪೆ Hampe) is a village in northern Karnataka state, India. It is located within the ruins of Vijayanagara, the former capital of the Vijayanagara Empire. Predating the city of Vijayanagara, it continues to be an important religious centre, housing the Virupaksha Temple, as well as several other monuments belonging to the old city.

As the village is at the original centre of Vijayanagara, it is sometimes confused with the ruined city itself. The ruins are a UNESCO World Heritage Site, listed as the Group of Monuments at Hampi.

Overview of Hampi

Hampi was the capital of Vijayanagar(14th century empire). The ruins of the empire is spread over the area of 26 sq km. "A Forgotten Empire" (ISBN 1419101250) by Robert Sewell is an interesting book which describes the rise and fall of Vijayanagar empire. It seems at one point of time, diamonds were sold on the streets of this empire.

Hampi is well worth the visit. The area is simply stunning and you will be in awe of the millions of boulders surrounding the area. However, within this arid landscape lies a little oasis with lush palm, banana and mango trees nestled near the river. Hampi is a great place to spend a few days wandering around and discovering the rich, vibrant history while also having a bit of 'your' time.

Hampi Sights

Hampi is a visual delight, especially due to its stark contrast from most other places. Rocks are all you see whichever direction you look at. Vegetation is visible in the wet months; but again it never dominates the landscape. It is an ideal spot for people who are interested in history and/or nature.

There are many sites of interest in and around Hampi. The must-visits are Virupaksha Temple, Hampi Bazaar, Monolith Bull, Lakshmi Narasimha temple, Hemakuta Hill temples, Big Shivlinga, Vithala Temple (the famous Stone Chariot is located here), Hazara Rama Temple, Royal Enclosures, Queen's Bath, Zanana Enclosure (which also houses the Lotus Mahal), Elephant Stables, Achyut Raya temple, Statue of Ugra Narsimha, Virupaksha Temple, Mahanavmi Dibba, the Stepped Bath and the Matanga Hill (from where one can see the most beautiful sun set ever).

Take a ride in the "Dongi" or "Coracles" in the Tungabhadra river to see some beautiful rock forms caused by erosion over the years or to croos over - Reports as of August 2007 indicate that Karnataka Government has banned these boats but deployed a motor boat for river crossings (Rs. 5 per local per one way crossing, Rs. 10 for tourists (indian or non indian), Rs. 15 for tourists carrying luggage). These rates are liable to change (read: increase) judging by the attitudes of the 12 year-olds who handle the money on the ferries.

There are also several "Shivalings" along the river which the boatman will guide you to.

The old capital called Anegundi, across the river from Hampi also has many sites. The Hanuman Temple on Anjenaya Hill (involves climbing up 572 steps, is believed to be the birth place of Hanuman) and the Old Palace are definitely worth a visit.

To do justice to all the sites, one needs a minimum of 3 full days of sight seeing. To discover all the ruins, it may take much more than 3 days. May be months.

ค่าตั๋วเข้าชม Elephant stables และVithala Temple 10 รูปีสำหรับคนอินเดีย

ตอนที่เราไปเที่ยว Virupraksha Temple มีนักบวชชาวอินเดียคนหนึ่งมาสนทนาชวนเราไปเที่ยวยังสำนักของเขาที่อยู่อีกฝั่งแม่น้ำ ตอนเย็นเขามารอเราแถว Vithala Temple แล้วพาเราข้ามแม่น้ำไปยังสำนักของเขา ที่มองเห็นรูปร่างกลมๆในรูปนั่นแหละคือเรือที่พาเราข้ามแม่น้ำ เรือนี้เขาเรียกว่า"Dongi" or "Coracles" เราจ่ายค่าโดยสาร 50 รูปีสำหรับสามคน(1 ตัวเรา 2 นักบวชอินเดีย 3 คนขับรถตุ๊กตุ๊ก)

ข้ามไปอีกฝั่งแล้วก็เดินต่อไปอีกหน่อย เขาพาเราไปยังกระท่อมที่พักของอาจารย์เขา แล้วให้เราสนทนากับอาจารย์ของเขา ในกระท่อมมีรูปพระศิวะไว้สำหรับเคารพบูชา ที่นี่มีนักบวช๓-๔คน อาจารย์ใหญ่เป็นชาวอิตาเลียนมาอยู่อินเดียได้ ๕๐ ปีแล้ว นักบวชนอกนั้นก็เป็นชาวอิตาเลียนอีกหนึ่งคน และนักบวชชาวอินเดีย นอกจากนี้ยังมีฝรั่งต่างชาติ๒-๓คนมาปฏิบัติธรรมที่นี่ด้วย

เท่าที่เราได้เคยอ่านหนังสือมาพบว่า ในการสนทนากับนักบวชอินเดีย เราเป็นผู้อ่อนกว่า เขาเป็นผู้แก่กว่า เราไม่ควรไปถามเรื่องประวัติส่วนตัวของเขา เช่น ก่อนมาบวชท่านเคยทำงานอะไรมาก่อน มีลูกเมียกี่คน เราก็สนทนาเรื่องทั่วๆไปเช่นทำไมท่านจึงเลือกมาปฏิบัติธรรมที่แห่งนี้ เราถามเขาว่าเคยเจอคนไทยมาที่นี่ไหม เขาบอกว่าเราเป็นคนไทยคนแรกที่มาสำนักเขาที่นี่ แต่เขาเคยเจอพราหมณ์คนไทยที่เมืองมะนาลี เราบอกว่าเราก็เคยเจอพราหมณ์คนไทยที่มะนาลีเมื่อyear2003(พ.ศ. ๒๕๔๖) เขาอยู่วัดฮินดูที่Vashist Hot Spring สนทนากันไม่นานประมาณ ๑๐ นาที เราก็กลับ เพราะไม่รู้จะคุยอะไร

นักบวชอินเดียจะพาเราไปเที่ยววัดฮินดูบนเขา แต่ว่าเวลาเย็นมากแล้ว จะกลับไม่ทันมืด จึงไม่ไป ก็เลยเดินเที่ยวละแวกนั้น เขาชวนเรามาปฏิบัติธรรมด้วยกันที่นี่ มีที่พักฟรี อาหารฟรี เราตอบว่าถ้ามีโอกาส คราวหน้าอาจจะมาพักที่นี่

.